ปูมหลังส่วนตัว
แต่เดิมแล้วบ้านของฉันค่อนข้างยากจน ตอนเรียนมหาวิทยาลัยฉันมีน้ำหนักแค่ประมาณ 90 กิโลกรัม ฉันอยากออกไปทำงานหาเงิน แต่บางที่กลับไม่รับเพราะฉันผอมเกินไป เพื่อจะได้หาเงินมากขึ้น ในปี 2004 ฉันเริ่มทำงานพาร์ทไทม์เป็นนายหน้าในตลาดฟิวเจอร์ส ในขณะเดียวกันก็เริ่มทำฟิวเจอร์สด้วย ผลประกอบการนั้นแน่นอนว่าขาดทุน เมื่อจบการศึกษา เงินเดือนของฉันก็ไม่สูงมาก เริ่มต้นจากการซื้อขายข้าวโพด
เริ่มต้นเสียครั้งใหญ่
ก่อนวันชาติปี 2008 ฉันขาดทุนติดต่อกัน รู้สึกเหมือนจะถูกกลืนกินโดยวงการนี้ ในบัญชีเหลือเงินไม่กี่พันบาท ส่วนเงินเดือนก็หมดแล้ว พอดีกับที่บริษัทให้ฉันสมัครบัตรเครดิตเพราะธนาคารมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้จัดการ ผู้จัดการบอกฉันว่า “เสี่ยวจาง ให้สมัครบัตรเครดิตซะ” ฉันถามว่า “สมัครบัตรเครดิตทำไม?” เขาตอบว่า “สมัครบัตรเครดิต คุณสามารถกู้เงินได้” ฉันตอบว่า “ไม่อยากจะสมัคร” เขาก็กล่าวว่า “สมัครเถอะ”
วางแผนที่จะใช้บัตรเครดิต
จากนั้นฉันก็สมัครบัตรดำได้วงเงิน 25,000 บาท เนื่องจากเป็นการแนะนำจากบริษัท วงเงินจึงสูงกว่าปกติ ฉันไม่สนใจว่าจะใช้บัตรเครดิตซื้อของ แต่สนใจในข้อมูลแถมนั้น เขาบอกว่า สามารถถอนเงินสดได้ วงเงิน 25,000 บาทนั้นฉันไปถอนเงินสดจากธนาคาร ในเวลานั้นสามารถใช้บัตรได้วันละ 2,000 บาท ฉันไปถอนเงิน 5 วันรวม 10,000 บาท
เข้าไปในตลาดฟิวเจอร์ส
ในช่วงที่ใกล้วันชาติ มีเวลา 7 วันในการทำธุรกิจ ฉันคิดว่าควรเลือกชนิดไหน? ก็เลือกทำถั่วเหลืองแบบสุ่ม ช่วงวันชาติเป็นช่วงที่ตลาดตก ฉันจึงเข้าไปในตลาดโดยที่ไม่รู้จะเจอวิกฤตอย่างไร ตอนนั้นฉันไม่รู้เลยว่าวิกฤตคืออะไร หลังจากวันชาติปี 2008 เราทราบกันดีว่าตลาดมีแนวโน้มอย่างไร ฉันไม่รู้ว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น แต่ที่รู้คือไม่หน้าติดตาม
เริ่มต้นความเชื่อมั่นใหม่
จากเวลานั้นเป็นต้นมา ฉันรู้สึกว่าจริงๆ แล้วตัวเองยังเหมาะสมกับการทำฟิวเจอร์ส ความมั่นใจก็เพิ่มขึ้น จึงเริ่มทำฟิวเจอร์สจริงจัง และไม่ค่อยอยากไปทำงานเสียแล้ว จริงๆ งานของฉันดีมาก เงินเดือน 4,000 บาท และยังมีเงินค่าคอมมิชชั่นอีกประมาณ 10,000 บาท ซึ่งถือว่าสูงเมื่อจบการศึกษา แต่ฉันไม่สนใจงานนี้เลย
ทำการลงทุนมากขึ้น
การเคลื่อนไหวในตลาดก็เป็นไปอย่างดี ตัวเลขลดลงต่อเนื่อง หลังจากที่ว่างขายถั่วเหลืองได้ ฉันก็วางขายทองแดง ด้วยเหตุการณ์ตกหลังจากที่มีการว่างขายถั่วเหลืองอยู่แล้ว ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงนัก การค้าหวานใจกัน ทำให้ฉันทบทวนประสบการณ์ในตลาดอย่างต่อเนื่อง
สถานะการซื้อขายในอนาคต
จากที่ฉันลงมือทำการซื้อขายจนได้ข้อมูลเกี่ยวกับการกลับตัวจากตลาด ตั้งแต่ปี 2010-2011 ฉันสร้างทีมได้สำเร็จ มีสมาชิกทีมอยู่ 30 กว่าคน สิ่งสำคัญคือต้องสร้างความมั่นใจและทำงานให้เหมาะสมกับความเด็ดขาด โดยเฉพาะการทำฟิวเจอร์สในปี 2013 สิ่งที่เราทำได้คือพร้อมรับความท้าทาย ตั้งแต่การสร้างระบบการค้า รวมถึงในการพัฒนาทีมนั้นจะมีการศึกษาจากหลายๆ แหล่ง
สรุปถ้อยคำแห่งความสำเร็จ
สุดท้ายของสิ่งสำคัญที่เราได้เรียนรู้ในทุกการลงทุนคือ ต้องมีจิตใจที่มั่นคง ไม่ต้องคิดทุกวันว่าจะทำอย่างไรให้ได้กำไร แต่ก็ไม่ต้องกลัวที่จะขาดทุน ถ้าเราเพียงแค่ทำตามแนวทางที่ได้ออกแบบไว้ แน่นอนว่าความสำเร็จจะมาเยือนในที่ที่ไม่คาดคิด
ความคิดเห็นของผู้ใช้
ยังไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น