ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในตลาดเอเชีย
【ตลาดน้ำมันดิบสหรัฐฯ ขึ้นเล็กน้อยท่ามกลางปัจจัยพื้นฐานที่หลากหลาย】
ราคาน้ำมันดิบ WTI ในวันอังคาร (3 ธ.ค.) ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยที่ 68.05 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดยังคงขาดทิศทางที่ชัดเจน เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานทั้งดีและไม่ดี โดยมีการเทรดที่เบาบาง ตลาดมุ่งเน้นไปที่ข้อมูลสต็อกน้ำมันของ EIA ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ รวมถึงการประชุม OPEC+ ในวันพฤหัสบดีที่จะมีการพิจารณาว่าจะเลื่อนการตัดลดการผลิตน้ำมันหรือไม่ ซึ่งอาจช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน
จากปัจจุบัน ความคาดหวังในการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธันวาคมได้ลดลง ซึ่งเป็นการจำกัดการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน และดัชนีดอลลาร์ยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งไม่เอื้อต่อการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน โดยภาพรวมยังคงเคลื่อนไหวในกรอบการสวิง และรอดูทิศทางการเคลื่อนไหวของตลาด
【ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์และการประชุม OPEC+】
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ความตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและเลบานอนดูเหมือนจะมีความเปราะบางมากขึ้น โดยทางกองทัพอิสราเอลได้แถลงเมื่อวันจันทร์ว่า กำลังโจมตีเป้าหมาย "ก่อการร้าย" ภายในเลบานอน ขณะที่ทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวหากันว่าอีกฝ่ายละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
“ความเสี่ยงจากภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเพิ่มขึ้น” Dennis Kissler รองประธานฝ่ายการซื้อขายระดับสูงของ BOK Financial กล่าว “แม้ว่าการหยุดยิงจะเกิดขึ้นในอิสราเอล แต่ก็มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการหยุดยิงนั้น”
การประชุม OPEC+ ครั้งต่อไปจะจัดขึ้นในวันที่ 5 ธันวาคม และแหล่งข่าวระบุว่า การประชุมจะพิจารณาการเลื่อนแผนการเพิ่มการผลิตน้ำมันที่มีกำหนดจะเริ่มในเดือนมกราคม 2024
【ความคิดเห็นจากเฟดและการคาดการณ์การปรับลดดอกเบี้ย】
ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา บอสติก กล่าวว่า เขายังคงเปิดรับความเป็นไปได้ที่จะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม และการประกาศข้อมูลการจ้างงานที่จะออกในเร็วๆ นี้จะส่งผลต่อการตัดสินใจครั้งนี้
ในขณะเดียวกัน วอลเลอร์ได้กล่าวในงานสัมมนาของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจแห่งสหรัฐฯ ว่า “นโยบายการเงินยังคงมีความเข้มงวดเพียงพอ ดังนั้นหากเราลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า มันจะไม่ส่งผลกระทบต่อทิศทางนโยบายอย่างมาก แต่จะช่วยให้เรามีพื้นที่ในการลดดอกเบี้ยในอนาคตเพื่อที่จะเดินหน้าตามเป้าหมายเงินเฟ้อ”.jpg "คำเตือนการซื้อขายน้ำมันดิบ: การชักเย่อระยะสั้นรอการประชุม OPEC+ และระวังความเสี่ยงที่ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์จะแย่ลง!")
จากเครื่องมือ FedWatch ของ CME Group หลังจากที่วอลเลอร์แสดงความคิดเห็นแล้ว ตลาดได้เพิ่มความน่าจะเป็นที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 25 จุดในเดือนธันวาคมจาก 66% เป็น 75% ในขณะที่ความน่าจะเป็นที่เฟดจะหยุดการลดดอกเบี้ยได้ลดลงจาก 34% เป็น 25%
ในแง่เทคนิค ราคาน้ำมันดิบ WTI ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบที่ไม่กว้างนักและยืนอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ หากในช่วงสั้นไม่สามารถผ่าน 69 ดอลลาร์/บาร์เรลได้ ราคาน้ำมันอาจกลับมาทดสอบระดับการสนับสนุนอีกครั้ง
ความคิดเห็นของผู้ใช้
ยังไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น