นักเศรษฐศาสตร์เตือน: ดอลลาร์ต่ำกว่าความเสี่ยงที่เกิดจากความตึงเครียดทางการค้า
Vasileios Gkionakis นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสและนักกลยุทธ์จาก Aviva Investors ระบุว่า แม้ว่าดอลลาร์สหรัฐฯ จะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ แต่ยังไม่สะท้อนถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศอย่างครบถ้วน
Gkionakis กล่าวว่า “ในปัจจุบัน มีเพียงส่วนหนึ่งของความเสี่ยงเชิงนโยบายที่ถูกบรรจุอยู่ในมูลค่าของดอลลาร์ ซึ่งอาจน้อยกว่าที่คุณคาดคิดไว้มาก”
ผลกระทบจากโมเดล AI
จากการวิเคราะห์โดยใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) พบว่าข้อมูลเศรษฐกิจและปัจจัยต่างๆ เช่น อัตราผลตอบแทน (Yield Spreads) มีผลต่อการเพิ่มขึ้นของดอลลาร์ประมาณ 50% ถึง 90% ซึ่งมีเพียง 1% ถึง 1.5% เท่านั้นที่มาจากปัจจัยอื่น เช่น ความเสี่ยงจากความตึงเครียดทางการค้า
เขาเตือนว่า หากสหรัฐฯ ใช้นโยบายการค้าคุ้มครอง (Protectionism) ดอลลาร์อาจมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นอย่างมาก
สถานการณ์ที่เป็นไปได้
- การเปลี่ยนแปลงถาวร: หากสหรัฐฯ ใช้ภาษีศุลกากรเพื่อแยกตัวออกจากโลกาภิวัตน์อย่างถาวร ดอลลาร์อาจแข็งค่าขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยขนาดและความเร็วของการแข็งค่า จะขึ้นอยู่กับขนาดและระยะเวลาของการดำเนินการภาษีศุลกากร
- กลยุทธ์การเจรจา: หากใช้ภาษีศุลกากรเป็นเพียงเครื่องมือในการเจรจา ดอลลาร์อาจปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยและในระยะสั้น
Gkionakis ชี้ให้เห็นว่าผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจเป็นส่วนผสมของสถานการณ์เหล่านี้ และประเทศต่างๆ อาจได้รับผลกระทบแตกต่างกัน
ความคิดเห็นจาก Oxford Economics
Adam Slater หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Oxford Economics กล่าวว่าตลาดเงินยังไม่ได้สะท้อนความเสี่ยงจากการขึ้นภาษีศุลกากรในปัจจุบัน โดยเฉพาะกับประเทศเม็กซิโกและแคนาดา เขาเตือนว่า หากความเสี่ยงจากการขึ้นภาษีศุลกากรกลายเป็นจริง ค่าเงินของประเทศเหล่านี้อาจอ่อนค่าลงอีก 5% หรือมากกว่านั้น
Slater คาดการณ์ว่าในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ตลาดการเงินอาจมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ โดยเฉพาะเมื่อท่าทีเชิงนโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ ใหม่เริ่มมีความชัดเจน
ความคิดเห็นของผู้ใช้
ยังไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น